top of page
Search

ฉัตร์ชัยเดชาลาแคมป์กำปั้น2สัปดาห์ดูแลภรรยาคลอดบุตร

  • Writer: SW Sport News
    SW Sport News
  • Jul 17, 2020
  • 2 min read

"เจ้าสด" ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองชิงแชมป์เอเชีย บาคาร่าออนไลน์ 2015 ได้ทำเรื่องขออนุญาต ลาซ้อมกับแคมป์ทีมชาติเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อไปทำหน้าที่สามีที่ดี ในการดูแลภรรยาอย่างใกล้ชิด ซึ่งเตรียมจะคลอดบุตรสาวคนที่ 2 ในเร็วๆนี้


     ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี  นักชกชาวจังหวัดสระแก้ว ได้กล่าวว่า หลังจากซ้อมเสร็จเมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ 15 กรกฎาคม 63 ที่ผ่านมา ตนได้ขับรถออกจากแคมป์กำปั้นทีมชาติ ที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เพื่อมาดูแล "น้องจิบ" จุฑารัตน์ บุตรดี (เนียมสุ่ม) ทันที ซึ่งตอนนี้ ได้ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน เขตบางรัก และมีกำหนดคลอดบุตรสาวคนที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 น.โดยประมาณ

    "เบื้องต้นแพทย์ได้กล่าวว่า บุตรสาวคนที่สอง ที่กำลังจะลืมตามาดูโลกในวันอาทิตย์นี้ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และมีน้ำหนักมากถึง 3,600 กรัมเลยทีเดียว ซึ่งตนเองรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เจอหน้าบุตรสาวคนนี้" นักชกเหรียญทองซีเกมส์ 4 สมัยกล่าว



    ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ที่สามารถคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงกลางปีหน้าได้สำเร็จ ได้กล่าวว่า ตนได้ขอลาจากแคมป์ทีมชาติไปจนถึงสิ้นเดือน เพราะหลังจากภรรยาคลอดเสร็จ ก็จะต้องใช้เวลาพักฟื้น 2 สัปดาห์ ซึ่งในช่วงที่ภรรยาพักฟื้น ตนต้องทำงานบ้านแทนทุกอย่าง และต้องไปรับไปส่งบุตรสาวคนโตไปโรงเรียนด้วย โดยจะมีคุณแม่ของภรรยา เดินทางจากจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อมาช่วยอีกแรง


    ภายหลังจากภรรยาพักฟื้น จะกลับไปเข้าแคมป์ฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็กเหมือนเดิม โดยนักชกวัย 35 ปีได้กล่าวว่า การที่บุตรสาวคนที่ 2 กำลังจะลืมตามาดูโลก ได้ช่วยให้เจ้าตัวมีกำลังใจมากขึ้น กับการมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ เพื่อคว้าเหรียญโอลิมปิกมาครองให้ได้ ซึ่งโอลิมปิกในครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว หลังก่อนหน้านี้ เคยไปชกโอลิมปิกมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ไปไม่ถึงการคว้าเหรียญรางวัลทั้งคู่ ดังนั้นในโตเกียวเกมส์ ASIA369 ตนจะมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ เพื่อทิ้งทวนกีฬาโอลิมปิก กับการคว้าเหรียญรางวัลมาครองให้ได้


ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งเตรียมลุยเกมมอเตอร์สปอร์ตไทยและเทศ


''ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม'' สุดยอดทีมแข่งรถจักรยานยนต์ของเมืองไทย ภายใต้การสนับสนุนของ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เตรียมสานต่อความสำเร็จเกมมอเตอร์สปอร์ตในปี 2020 ด้วยการจัดขุนพลนักบิดทัพใหญ่เพื่อลงทำการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบทั้งในและนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ศึกชิงแชมป์ประเทศไทย, ศึกชิงแชมป์เอเชีย และศึกชิงแชมป์ยุโรป โดยตั้งเป้ายืนโพเดียมทุกสนามและคว้าแชมป์ในทุกรายการแข่งขันที่ลงชิงชัย พร้อมส่งนักบิดดาวรุ่งเข้าร่วมการแข่งขันโมโตทู เพื่อต่อยอดเกมการแข่งขันระดับโลก

    นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เป็นประธานแถลงข่าวนโยบายและแนวทางในการพัฒนาทีมแข่งของยามาฮ่า พร้อมเปิดตัวทีมนักแข่งยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ลุยมอเตอร์สปอร์ตปี 2020 ณ โชว์รูมยามาฮ่า ไรเดอร์ คลับ ถนนเกษตรฯ-นวมินทร์ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมี นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมแถลง

    นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัดกล่าวถึงนโยบายและแนวทางในการพัฒนาทีมแข่งของยามาฮ่าว่า ''ในปีนี้ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ได้วางแผนในการพัฒนาและต่อยอดความสำเร็จของทีมแข่ง ทั้งในระดับประเทศ, ระดับเอเชีย และระดับยุโรป ไปสู่เกมการแข่งขันระดับโลกอย่างโมโตจีพี โดยเริ่มจากการเฟ้นหานักแข่งหน้าใหม่ที่มีแววและฝีมือจากการแข่งขัน ยามาฮ่า อาร์15 ไทยแลนด์ ชาลเลนจ์ เพื่อนำมาฝึกอย่างเป็นระบบ พร้อมให้การสนับสนุนให้ร่วมการแข่งขันในระดับที่สูงขึ้นก่อนจะก้าวเข้าสู่ทีมใหญ่ต่อไป สำหรับในส่วนของทีมงาน ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม เราได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 2 รายการหลัก คือ การแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี และการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชียโร้ดเรชซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งในปีที่ผ่านเราสามารถคว้าแชมป์รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี มาครองและเป็นการคว้าแชมป์ 2 ปีติดต่อกันอีกด้วย โดยในปีนี้เราจะมุ่งเน้นไปที่รุ่น เอเซียซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี และรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี มากขึ้น 


ส่วนรุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี นั้น จะมุ่งเน้นการพัฒนาทีมซับพอร์ตของยามาฮ่าที่มีความสามารถให้ได้มีโอกาสเข้าสู่เกมในระดับอินเตอร์เนชันแนล เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับทีมยามาฮ่าต่อไปในอนาคต ส่วนการแข่งขันทางฝั่งยุโรปนั้น เราก็ยังเฟ้นหานักแข่งดาวรุ่งที่มีฝีมือเพื่อส่งไปร่วมแข่งขันรายการเอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโต2 แชมเปี้ยนชิพ ภายใต้ความร่วมมือกับทาง วีอาร์46 มาสเตอร์แคมป์ ซึ่งเป็นทีมในสังกัดของ วาเลนติโน่ รอซซี่ แชมป์โลก 9 สมัย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้นักแข่งไทยพร้อมสำหรับการแข่งขันระดับโลก เพราะเป้าหมายสำคัญของยามาฮ่าคือ การสร้างนักแข่งไทยสู่เวทีระดับโลกอย่างการแข่งขันโมโตจีพี ซึ่งเราวางแผนไว้ว่าหากนักแข่งสามารถทำผลงานได้ดี เราจะร่วมมือกับทางยามาฮ่าประเทศญี่ปุ่น เพื่อผลักดันนักแข่งไทยยามาฮ่าเข้าร่วมการแข่งขันในรายการโมโตจีพีเต็มฤดูกาลต่อไปในอนาคต''

    นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้กล่าวถึงผลงานการแข่งขันในปี 2019 ของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ว่า ''สำหรับในปี 2019 ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันระดับเอเชีย ด้วยการคว้าแชมป์เอเชีย รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมด้วยสถิติใหม่ของการแข่งขันในรุ่นนี้ด้วย โดย พีรพงศ์ บุญเลิศ ''26 สามารถคว้าชัยชนะได้มากถึง 8 ครั้ง เทียบเท่าสถิตินักแข่งชาวญี่ปุ่น และสามารถยืนโพเดียมได้ 14 ครั้ง จากทั้ง 14 เรซการแข่งขัน ส่วนรุ่น เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี ที่เป็นปีแรกของการแข่งขันของรถระดับ 1000 ซีซี ในเอเชีย ถือว่าเป็นปีแห่งการเรียนรู้และพัฒนาทั้งในส่วนของนักแข่งและรถแข่งที่ใช้ทำการแข่งขัน นั่นคือ Yamaha YZF-R1 

    โดยทีมสามารถทำผลงานคว้าอันดับที่ 4 จากฝีมือของ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ''24 และ รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ''56 คว้าอันดับที่ 7 สำหรับทางด้านการแข่งขัน ซีอีวี โมโต2 ยูโรเปี้ยน แชมป์เปี้ยนชิพ เราส่ง 2 นักแข่งดาวรุ่งลงแข่งขันก่อนที่จะสามารถทำอันดับติด Top 5 ในการแข่งขันที่ บาร์เซโลน่า และ เฆเรซ ก่อนที่จะจบฤดูกาลด้วยผลงานจาก เขมินท์ คูโบะ ''9 ในอันดับที่ 9 และ อนุภาพ ซามูล ''50 ในอันดับที่ 12 ของยุโรป ส่วนการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย เอฟเอ็มเอสซีที ออลไทยแลนด์ซูเปอร์ไบค์ รุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี 1 ทำผลงานรวมอยู่ในอันดับที่ 3 และการพัฒนาทีมร่วมที่สามารถทำผลงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นคว้า แชมป์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600, แชมป์ อาร์2เอ็ม ไทยแลนด์ซูเปอร์ไบค์ รุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี 1 หรือการคว้าแชมป์ต่อเนื่องในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี ถึง 5 ปี ติดต่อกัน ด้วยรถแข่ง Yamaha YZF-R3''

 นอกจากนี้ นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ยังกล่าวถึงเป้าหมายในการแข่งขันปี 2020 ว่า ''สำหรับการแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชียรายการ เอฟไอเอ็ม เอเซีย โร้ดเรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ เรายังคงส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่งในปีนี้เราส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 2 รุ่น คือ รุ่นเอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี โดยในปีนี้เราเลือกใช้รถ Yamaha YZF-R1M 2020 เพื่อใช้ในการพัฒนาและแข่งขันไปพร้อมๆ กับทีมแข่งชั้นนำของยามาฮ่าทั้งที่ประเทศญี่ปุ่นและที่ยุโรป และในปีนี้เราได้มีแผนการพัฒนาทีมช่าง โดยเฉพาะในส่วนของเรซเอ็นจิเนียร์ที่เป็นทีมวิศวกรไทยทั้งหมดที่รับการฝึกฝนเทียบเท่าระดับสากล เน้นสร้างบุคลากรทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งเรามีเป้าหมายและความมุ่งมั่นที่จะทำผลงานอย่างเต็มที่ตลอดทั้งฤดูกาล ส่วนอีก 1 รุ่นก็คือ รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เราก็ยังคงใช้รถ Yamaha YZF-R6 

    ซึ่งในปีนี้ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนกติกาในเรื่องของอายุนักแข่งที่กลับมาเปิดในเรื่องของอายุนักแข่งอีกครั้ง ทำให้ความเข้มข้นและการขับเคี่ยวกับเหล่านักแข่งมากประสบการณ์ที่กลับมาร่วมการแข่งขันในรุ่นนี้ แต่ด้วยประสบการณ์และการพัฒนาของทีมงาน เราตั้งเป้ากับการป้องกันแชมป์เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ส่วนในรุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ด้วยความพร้อมและศักยภาพของทีมซับพอร์ตของยามาฮ่าที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเราได้สนับสนุนให้ทีมได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันในระดับอินเตอร์มากขึ้น เพื่อยกระดับทีมและเพิ่มประสบการณ์ให้กับทีมซับพอร์ตของยามาฮ่าด้วย''

    สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย ที่ถือได้ว่าเป็นพื้นฐานของการพัฒนาและเสริมสร้างความสามารถให้แก่ทีมช่างไทยเป็นหลัก ในปีนี้เรายังคงเน้นไปที่การแข่งขันในรุ่นซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี 1 กับการแข่งขันเก็บคะแนนสะสม 2 รายการอย่าง พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ และ อาร์2เอ็ม ไทยแลนด์ ซูเปอร์ไบค์ นอกจากนี้ในการแข่งขันซีอีวี โมโต2 ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ ที่เราทำงานร่วมกับทีม VR46 มาสเตอร์แคมป์ ปีนี้มีการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 8 สนาม 11 เรซ โดยเป็นการแข่งขันในทวีปยุโรปทั้งหมด ซึ่งเราได้คัดเลือกนักแข่งดาวรุ่งฝีมือดีเข้าร่วมในโปรแกรมนี้ตลอดฤดูกาลถึง 2 คน เพื่อพัฒนาสู่การแข่งขันระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์แบบเต็มฤดูกาลในปีต่อไป และสุดท้ายกับการแข่งขันโมโตจีพี ในประเทศไทยกับรายการ โออาร์ ไทยแลนด์กรังด์ปรีซ์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 มีนาคมนี้ ทางยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม จะส่งตัวแทนนักแข่งไทย 1 คน เข้าร่วมการแข่งขันในรุ่นโมโต2 เพื่อเป็นตัวแทนนักแข่งไทยในการแข่งขันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ 

    โดยในโอกาสนี้ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขอขอบพระคุณท่านสื่อมวลชนทุกๆ ท่านที่ให้การสนับสนุนนำเสนอข่าวสารและผลงานของทีมยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ด้วยดีตลอดมา สำหรับทางยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ในฐานะทีมแข่งสัญชาติไทย เราจะทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยต่อไป

 
 
 

Comentarios


Post: Blog2_Post

©2020 by Spiritwish News. Proudly created with Wix.com

bottom of page