top of page
Search

"ปัทมา"ห่วงโรคม้าระบาดหวั่นกระทบกีฬาขี่ม้า

  • Writer: SW Sport News
    SW Sport News
  • Apr 28, 2020
  • 1 min read

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) คาสิโน และ มร. อิงมาร์ เดอ วอส ประธานสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ มีความกังวลส่วนตัวอย่างมาก ต่อปัญหาการแพร่ระบาดของกาฬโรคแอฟริกาในม้า หรือ African Horse Sickness (AHS) ในประเทศไทยขณะนี้ หลังได้สอบถามถึงปัญหาไปยังผู้บริหารสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทยหลายท่าน

   โดยคุณหญิงปัทมา กล่าวว่า ต้นตอของการแพร่ระบาดกาฬโรคแอฟริกาในม้า ทราบว่ามาจากม้าลายที่ได้มีการนำเข้ามาจากทวีปแอฟริกา ซึ่งเกิดการระบาดของโรคนี้ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โรคนี้เป็นอันตรายอย่างมาก หากม้าตัวไหนติดเชื้อจะตายทันที เพราะไม่สามารถรักษาได้

    "ปัจจุบันมีข้อมูลว่ามีม้าตายไปแล้วกว่า 300 ตัวในประเทศไทย ส่วนการป้องกันที่ทำได้ขณะนี้ คือ กางมุ้งคอกม้าเพื่อป้องกันริ้น และ ยุงที่เป็นพาหะของโรค รวมถึงการฉีควัคซีนให้แก่ม้า ที่ยังไม่มีอาการป่วยในพื้นที่เขตระบาด และทำการฉีดให้แก่ม้าไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนวัคซีนที่เหลือจะเข้ามาในอีก 1 เดือนข้างหน้า" ไอโอซีเมมเบอร์ กล่าว 


    คุณหญิงปัทมา กล่าวต่ออีกว่า จากการพบกาฬโรคม้าในประเทศ ทำให้จากนี้ไปประเทศไทยจะไม่สามารถนำเข้าหรือส่งออกม้าได้เป็นระยะเวลา 3 ปี คือ การห้ามนำเข้าและส่งออกม้าดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับ โดยนับจากวันที่ม้าตัวสุดท้ายที่ตายด้วยโรคนี้ในประเทศนั้นๆ 

    "ม้าที่ใช้ในการแข่งขันในประเทศไทย ปัจจุบันมีมากกว่า 2,000 ตัว และในจำนวนนี้มีมากกว่า 50 ตัวที่ตายไปจากปัญหาโรคระบาดที่เกิดขึ้น แต่ผู้บริหารกีฬาขี่ม้ารอบคอบมาก ที่ขณะนี้ส่งนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย รวมถึงม้าที่ใช้แข่ง โอลิมปิก”โตเกียวเกมส์” ไปทำการเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส และทางสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย วางแผนขนส่งม้าไปยังประเทศญี่ปุ่นโดยตรง สำหรับกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่จะจัดขึ้นในปีหน้า”

    นอกจากนี้ คุณหญิงปัทมา ได้วิงวอนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาครัฐ ให้เพิ่ม มาตราการตรวจเข้มงวด ม้า หรือม้าลายที่นำเข้า ร่วมมือกัน ทุกฝ่าย ในการแก้ปัญหาที่น่าเป็นห่วงนี้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นห่วงถึงผลกระทบที่อาจจะรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะต่อวงการกีฬาขี่ม้าของไทย UFA23 หากยังไม่เกิดความร่วมมือกันในการแก้ปัญหาจากทุกฝ่าย

สิงห์พา14ยช.ไทยสัมผัสประสบการณ์พิเศษออสเตรเลียนโอเพ่น


ตามที่ บริษัท บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้จัดการแข่งขันเทนนิสเยาวชนรายการ "สิงห์ แกรนด์สแลม เอ็กซ์พีเรียนซ์" ซึ่งเป็นโครงการเพื่อเฟ้นหานักเทนนิสเทนนิสเยาวชนในรุ่นอายุ 12, 14 และ 16 ปี คนรวม 14 คน เพื่อไปการเรียนรู้ชีวิตนักเทนนิสอาชีพในระดับแกรนด์สแลม และเข้าร่วมแคมป์เทนนิสที่ประเทศออสเตรเลีย พร้อมทั้งเข้าชมการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลม ออสเตรเลียนโอเพ่น เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน

  ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ท่าอากาศยานนาชาติสุวรรณภูมิ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด นำนักเทนนิสเยาวชนไทยที่ผ่านการคัดเลือกจากโครงการ "สิงห์ แกรนด์สแลม เอ็กซ์พีเรียนซ์" ออกเดินทางไปยังเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ด้วยสายการบินไทย เที่ยวทีจี 465 เพื่อรับประสบการณ์พิเศษสุดด้วยการเรียนรู้ชีวิตนักเทนนิสอาชีพในเทนนิสแกรนด์สแลม ออสเตรเลียนโอเพ่น 2020 ในช่วงระหว่างวันที่ 15-21 มกราคม 2563 โดยมีนักเทนนิสรุ่นพี่อย่าง ดนัย อุดมโชค และ วรัชญา วงค์เทียนชัย นำทีมและดูแลน้องๆตลอดโครงการ

    โครงการ"สิงห์แกรนด์สแลมเอ็กซ์พีเรียนซ์" ปีนี้ถือเป็นปีที่ 6 ที่ได้จัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้นักเทนนิสในระดับเยาวชนทั้งหลายในการก้าวขึ้นไปเป็นนักเทนนิสอาชีพ และเรียนรู้ว่าการเป็นนักเทนนิสอาชีพใช้ชีวิตกันอย่างไร ซึ่งโครงการนี้ทำให้เยาวชนได้เรียนรู้รูปแบบดำเนินชีวิตแบบนักเทนนิสอาชีพจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเตรียมความพร้อมเรื่องการเดินทาง ด้านโภชนาการ เกมส์การเล่นกับสภาพสนามที่แตกต่างและการใช้ชีวิตในต่างเมือง รวมถึงการฝึกซ้อมแบบมืออาชีพซึ่งจะมี ดนัย อุดมโชค และ วรัชญา วงค์เทียนชัย ซึ่งเป็นอดีตนักเทนนิสทีมชาติไทยมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ฝึกสอนให้น้องๆอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีนักเทนนิสในโครงการ "สิงห์แกรนด์สแลมเอ็กซ์พีเรียนซ์" นั่นก็คือ “น้องไหม” มนัญชญา สว่างแก้ว และ "น้องแซ็ก" ฐานทัพ สุขสำราญ นักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทยที่เคยผ่านโครงการนี้และได้กลับมาแข่งขัน ออสเตรเลียนโอเพ่นระดับเยาวชน


    นอกจากนี้เหล่านักเทนนิสเยาวชนยังได้สัมผัสประสบการณ์ร่วมชมการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียนโอเพ่น 2020 ตั้งแต่ระดับกราวน์คอร์ท หรือคอร์ททั่วไปไปจนถึงระดับเมนท์สเตเดี้ยมซึ่งน้องๆจะได้เข้าไปเชียร์นักเทนนิสในดวงใจรวมไปถึงได้ดูนักเทนนิสระดับโลกซ้อมและแข่งขัน พร้อมได้รับการแนะนำจากพี่เลี้ยงว่าตลอดช่วงการแข่งขันว่าทำไมนักเทนนิสระดับโลกถึงซ้อมแบบนี้และทำไมต้องเล่นในรูปแบบนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น้องๆจะไปหาที่ไหนไม่ได้ โดยหวังว่าเยาวชนเหล่านี้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่จะได้รับในครั้งนี้อย่างเต็มที่ซึ่งเรา 5 ปีที่ผ่านมา เด็กที่ผ่านโครงการมีการพัฒนาขึ้นและมีเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

    ส่วนในปีนี้โครงการจะนำนักเทนนิสเยาวชน ซึ่งได้จากนักเทนนิสที่ชนะเลิศและรองชนะเลิศรายการสิงห์แกรนด์สแลมเอ็กซ์พีเรียนซ์จำนวน 3 รุ่นอายุได้แก่ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี, 14ปี และ 16 ปี และได้มีการจับสลากเพื่อคัดเลือกอีกรุ่นอายุละ 1 คน เพื่อให้ได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ดีๆแบบนี้ด้วย ซึ่งหวังว่าน้องๆที่ผ่านจากโครงการตลอด 6 ปีที่ผ่านมาช่วยกระตุ้นกระแสการตื่นตัวของการเป็นนักเทนนิสอาชีพของเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น

    สำหรับรายชื่อนักหวดเยาวชนไทยที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ "สิงห์ แกรนด์สแลม เอ็กซ์พีเรียนซ์" จำนวน 14 คนที่ได้เดินทางไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษมีดังนี้ กมลวรรณ ยอดเพ็ชร, กัญจน์ชญา จูงวัฒนา, ธีรภัทร ขันติวีรวัฒน์, ชนัสนันท์ ศิริวิโรจน์สกุล, พิมพ์มาดา ทองคำ, อัจฉราพร วรรณโพธิ์, ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย, ทินภัทร เทียนธวัช, ณัฐณิชา มูลทา, ธมนพรรณ จงเลิศตระกูล, ลัลนา ธาราฤดี, แทนตะวัน ทัดเดโอ มายอลิ แม็คจิโอลิ, แดเมียน  แครดดอคและ นรภัทร วิริโยฬาร

    โดยทั้งหมดจะได้เข้าร่วมแค้มป์เทนนิสโดยโค้ชชื่อดังของประเทศออสเตรเลีย พร้อมทั้งเข้าชมการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลม ออสเตรเลียนโอเพ่น 2020  ถึงขอบสนาม โดยสามารถติดตามภาพกิจกรรมล่าสุดได้ทาง เฟซบุ๊ก TATP Tour #SinghaGrandSlamExperince#PrayforAus

 
 
 

Comentários


Post: Blog2_Post

©2020 by Spiritwish News. Proudly created with Wix.com

bottom of page