รำลึก60ปีสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย:ตอนที่ 6 นักกีฬาของสมาคมรุ่นแรก (First Class)

ในปีที่ก่อตั้งสมาคมว่ายน้ำสมัครเล่น คาสิโน แห่งประเทศไทย ก็อยู่ในห้วงเวลาของการแข่งขัน กีฬาแหลมทอง (เซียพเกมส์) หรือที่ในปัจจุบันเรียกว่า "ซีเกมส์" ซึ่งมหกรรมกีฬารายการนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อวงการกีฬาทางน้ำไทยเป็นอย่างมาก

มีประวัติดังนี้ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2501 ด้วยการเริ่มของ "หลวงสุขุมนัยประดิษฐ์" โดยในช่วงเวลานั้นประเทศไทย กับประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้มีการติดต่อทางการกีฬาเป็นประจำ โดยเฉพาะประเทศเมียนมาร์ได้ส่งสาส์นเชิญประเทศไทยให้ส่งนักกีฬาไปร่วมแข่งขันฟุตบอล, รักบี้ฟุตบอล, แบดมินตัน, เทนนิส, มวยสากล, บาสเกตบอล

    ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ หลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ ที่ขณะนั้นได้ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยเกิดความคิดว่า น่าจะจัดแข่งขันกีฬาระหว่างชาติใน "กลุ่มแหลมทอง" ขึ้นในลักษณะคล้ายคลึงกับ "เอเชียนเกมส์"  หรือ "โอลิมปิกเกมส์" เพราะประชาชาติที่อยู่ในภาคพื้นนี้มีความเป็นอยู่ สภาพอากาศ และ รูปร่างคล้ายคลึงกันมาก

    ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานการกีฬาของชาติ ในกลุ่มแหลมทองให้สูงขึ้น เพื่อเตรียมเข้าร่วมแข่งขันกีฬาเกมส์ใหญ่ๆ ทั้ง เอเชียนเกมส์ และ โอลิมปิกเกมส์ และยังสร้างความสัมพันธ์ไมตรีและความร่วมมือระหว่างชาติเพื่อนบ้าน "กลุ่มแหลมทอง" และเพื่อเป็นการส่งเสริมความเข้าใจอันดีต่อกันเป็นการสมานไมตรีจิตให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นของประชากร

    ในการดำเนินวางโครงการและรายละเอียดการแข่งขันซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพในครั้งที่ 1 โดย หลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ มีแนวร่วมคนสำคัญคือ นายกอง วิสุทธารมณ์ และ นายสวัสดิ์ เลขะยานนท์ รวมทั้งเป็นผู้แทนไทยเดินทางนำข้อเสนอแนะจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศกลุ่มแหลมทองไปปรึกษาหารือระหว่างชาติในภาคพื้นแหลมทองขึ้นที่โตเกียวและจากการตกลงครั้งนี้กีฬาแหลมทองจึงได้ถือกำเนิดภายใต้รัฐธรรมนูญสหพันธ์กีฬาแหลมทองและกำหนดให้มีการแข่งขันทุกๆ 2 ปี เพื่อให้มีขึ้นระหว่างระยะเวลาการแข่งขันเอเชียนเกมส์ และ โอลิมปิกเกมส์

    โดยกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 1 (เซียพเกมส์) จัดขึ้นที่ประเทศไทย พ.ศ.2502 และมี 6 ประเทศ คือ เมียนมาร์, ลาว, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม และ ไทย (เจ้าภาพ) กีฬาที่บรรจุไว้ในครั้งแรกมี 12 ชนิด คือ กรีฑา, แบดมินตัน, บาสเกตบอล, มวยสากล, จักรยาน, ฟุตบอล, เทนนิส, ยิงปืน, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, วอลเลย์บอล และ ยกน้ำหนัก

    สำหรับสมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทยได้มีการจัดส่งนักกีฬาแข่งขันกีฬาแหลมทองทุกครั้ง ซึ่งครั้งแรก พล.ร.ต.ดร.ประเวช โภชนสมบูรณ์ ทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอน ก็สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้ และจากบันทึกที่มีการจดเอาไว้ในหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์ของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 1 ทีมว่ายน้ำไทยทำได้ 1 เหรียญเงิน กับ 1 เหรียญทองแดง โดยเหรียญเงินได้จาก จรินทร์ ชุมพุธ รายการ ฟรีสไตล์ 100 ม.ชาย และเหรียญทองแดงได้จาก ผลัดฟรีสไตล์ 4x100 ม.ชาย ที่มี สวิง จายประหยัด, ปัญญา สะท้อนพานิช, สมชาย ลิมปิชาติ และ จรินทร์ ชุมพุธ

    ถึงแม้ว่าครั้งแรกอาจจะยังไม่มีเหรียญทองแต่ก็ยังสานต่อไปครั้งที่ 2 ที่ทีมว่ายน้ำไทยคว้าเหรียญมากขึ้นจาก ไพโรจน์ โภชนสมบูรณ์ เหรียญทองแดง กรรเชียง 100 ม.ชาย, จงกล ตวนานนท์ 2 เหรียญทองแดง กรรเชียง 100 ม. กับ กบ 100 ม.หญิง, สิริวรรณ วิมลโนช 2 เหรียญทองแดง ฟรีสไตล์ 100 ม.กับ 200 ม.

    ในที่สุดเหรียญทองของสมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทยเกิดขึ้นในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 3 ที่กวาดมาได้ถึง 6 เหรียญทอง ได้จาก จินตนา ทองรัตน์ ที่กวาด 2 เหรียญทองจากรายการ กบ 100 ม., 200 ม.หญิง, ทีมผลัดฟรีสไตล์ 4x200 ม.ชาย, ชวลิต ลิ้มตระกูล กระโดดน้ำแพลตฟอร์มชาย และ วรจิตร ตั้งกิจสุข คว้า 2 เหรียญทอง จากกระโดดน้ำสปริงบอร์ด กับ แพลตฟอร์มหญิง

    นอกนั้นก็มีนักกีฬาว่ายน้ำไทยและกระโดดน้ำไทยคว้าเหรียญรางวัลอื่นๆมากมาย อาทิ ณรงค์ โชคอำนวย เหรียญเงิน เดี่ยวผสม 200 ม.ชาย, อำไพ อินแพง เหรียญเงิน กบ 100 ม.หญิง, เพชร วรรณา เหรียญเงิน กบ 200 ม.หญิง, สมชาย ลิมปิชาติ เหรียญทองแดง ฟรีสไตล์ 100 ม.ชาย, สมชาย เผือกใจแผ้ว เหรียญทองแดง กบ 100 ม.ชาย, วิเชียร มากธนรุ่ง เหรียญทองแดง ผีเสื้อ 200 ม.ชาย, เพชร วรรณา เหรียญทองแดง กบ 100 ม.หญิง, สมจิตร อุ่นสนิท เหรียญเงินกระโดดน้ำสปริงบอร์ดชาย, สุทธิ พานิชเจริญนาน เหรียญเงินกระโดดน้ำแพลตฟอร์มชาย เป็นต้น และยังมีทีมโปโลน้ำชายที่สู้ยิบตาคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้อีกด้วย

    นับว่าตั้งแต่กีฬาแหลมทอง (เซียพเกมส์) ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป ชนิดกีฬาที่อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทยทั้ง 3 ชนิด ก็ได้ร่วมกันฝึกซ้อมที่สระโอลิมปิก (วิสุทธารมณ์) มีบทบาทสำคัญของการสร้างชื่อเสียงให้แก่ทีมชาติไทย จึงทำให้ขุนพล "รมยตาล" ที่ได้กล่าวไปข้างต้นคือกลุ่มนักกีฬารุ่นแรกของสมาคม พวกเขาคือ "First Class" ตำนานผู้เป็นแบบอย่างแก่คนรุ่นหลัง

    แต่ก็น่าเสียดายที่ความเป็นตำนานค่อยๆจางหายไป พร้อมกับกายสังขารของบางท่านที่จากลาโลกนี้ไปแล้ว ยังโชคดีที่ยังมีการจดบันทึกผลงานวีรกรรมของทุกท่านไว้ในหอเกียรติยศ ถึงแม้จะไม่ครบถ้วนแต่มันก็ทำให้คนรุ่นหลังได้รู้ว่ากลุ่มนักกีฬารุ่นแรกได้สร้างอะไรไว้ เพื่อให้พวกเราสานต่อความสำเร็จ

    ฉะนั้นคนรุ่นหลังจึงขอสดุดีแก่ความสามารถ UFA23 ที่พวกท่านทั้งหลายนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ในนาม "นักกีฬาทีมชาติไทย" ของ สมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทย